หลักการทำสมาธิแก้กรรมที่ส่งถึงผู้รับ

คนเราทุกคนมีกรรมตั้งแต่ชาติปางก่อนซึ่งมาในชาตินี้เราก็ไม่สามารถจำได้เลยว่าเราเคยไปทำอะไรไว้กับใครให้เกิดความอาฆาตแค้นจนเป็นผลกรรมมาถึงในชาตินี้ ซึ่งเค้าคนนั้นก็จะตามหาเราแล้วก็กระทำกับเราจนถึงตายหรือทรมานจนกว่าเค้าจะพอใจ พอเราตายไปแล้วเจ้ากรรมนายเวรก็จะเข้ามาคุยกับเราว่าชาติก่อนเราเคยทำกับเค้าไว้ชาตินี้จึงต้องมาเอาคืน ถ้ายอมความกันได้ก็จบกันไปแต่ถ้าไม่ยอมเราก็จะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรเค้าไปในชาติภพหน้า ซึ่งทุกคนมีเจ้ากรรมนายเวรติดตัวมาทั้งนั้น เพราะเราไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเราไปทำอะไรไม่ดี หรือแม้แต่ชาตินี้เองก็ตาม ในวัยเด็ก หรือในช่วงแต่เราอายุขัย เราอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว ไร้เดียงสา หรือเหตุการณ์บังคับ อะไรก็แล้วแต่

การที่เราตั้งจิตสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรนั้นเพื่อให้เขากลับมาหาเราและเราก็บอกว่าเราสำนึกแล้ว ซึ่งขอให้เขานำสิ่งที่เกิดขึ้นกลับไป ก็เหมือนให้เขามาต่อแก้วคืนให้เป็นทรงเดิม ซึ่งจะต่อได้รึเปล่าขึ้นอยู่กับบุญที่เคยทำมาด้วย และสิ่งที่เราประสบอยู่เหมือนแก้วว่าแตกละเอียดไปแล้วแค่ไหน การขออโหสิกรรมควรทำควบคู่ไปกับการทำบุญ บางคนทำแต่บุญตรงนี้คุณได้บุญแต่ว่ากรรมคุณก็มี การที่คนเรามีเจ้ากรรมนายเวรเปรียบเหมือนเราติดหนี้ เรามีเจ้าหนี้ หากเราทำบุญอย่างเดียวก็เหมือนกับเร่งหาเงินแต่ไม่เคยนึกถึงเลยว่ายังติดหนี้ใครไว้บ้าง

การทำสมาธิสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรสำหรับผู้ที่เริ่มปฏิบัติควรทำช่วงที่จิตและร่างกายสมบูรณ์ ซึ่งช่วงที่ว่านั้นส่วนมากเป็นช่วงเช้าหรืออยู่ในช่วงกลางวัน ช่วงกลางคืนจิตคนเราอาจจะอ่อนตามร่างกายที่ทำงานมาทั้งวันเพราะคนเราจิตกับร่างกายสัมพันธ์กันเมื่อร่างกายอ่อนเพลียจิตก็อาจจะอ่อนตามกัน การที่คนเราจะมีสมาธิได้นั้นต้องมีพื้นฐานของความดีเป็นทุนเดิมก่อนก็คือการให้ทานและรักษาศีล 5 ตรงจุดนี้จะทำให้การนั่งสมาธิของเราง่ายยิ่งขึ้น โดยวิธีการนั่งสมาธินั้นให้เราทำจิตใจให้สงบเหมือนตอนใกล้จะนอนหลับเพราะว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่จิตใจสงบไม่ค่อยคิดอะไรมากแต่ต้องมีสติรู้ว่าตอนนี้เรากำลังนั่งสมาธิอยู่มีสติรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้างหลังจากนั้นจิตเราก็จะนิ่งพอที่จะสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรได้

การนั่งสมาธิแก้กรรมนั้นเราสามารถทำกันได้ทุกคนแต่มีข้อแม้ว่าต้องทำเฉพาะช่วงกลางวันระหว่าง 6 โมงเช้าไปจนถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น เพราะหากทำนอกเหนือเวลาดังกล่าวโอกาสที่เราจะสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรนั้นก็มีแต่โอกาสที่จะถึงสิ่งอื่นก็มีด้วย สัมภเวสีหรือพวกวิญญาณเร่ร่อนที่ไม่มีพลังเป็นของตัวเองเนื่องจากตอนที่มีชีวิตไม่เคยปฏิบัติสมาธิ พอตายไปก็ไม่สามารถรวบรวมจิตที่แตกไปให้กลับมารวมกันได้ พอเค้าเห็นว่าใครกำลังทำสมาธิก็จะมาขอผลบุญ ถ้าเค้ามาถึงก่อนเจ้ากรรมนายเวรของเราก็เท่ากับว่าการนั่งสมาธิครั้งนั้นไม่มีค่าอะไรเลยอีกทั้งยังอาจส่งผลเสียอีกด้วย